ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการพูดถึงเป็นครั้งแรกภายในงานแถลงข่าว GDH X นาดาว Party นิ่งเป็นปรับ ขยับเป็นเปิด ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยจีดีเอชได้เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไม่เป็นทางการในชื่อ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะมูฟวี่ และกำหนดวันฉายอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะเป็นแนวคอมเมดี้ มีเนื้อหาต่อจากซีรีส์ ไดอารีตุ๊ดซีส์ เดอะซีรีส์ ที่ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เมื่อ พ.ศ. 2559-2560 และใช้นักแสดงชุดเดิมเล่นทั้งหมด โดยที่ตัวบทภาพยนตร์ ธีร์ธวิต เศรษฐไชย จะเข้ามาร่วมเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับทีมเขียนบทภาพยนตร์ของทางจีดีเอชด้วย ต่อมาจีดีเอชได้อัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์โดยมีการประกาศตัวนักแสดงหลักอีกหนึ่งคนที่จะมาสร้างสีสันให้ภาพยนตร์คือ อารยา เอ ฮาร์เก็ต และระหว่างที่ภาพยนตร์ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ จีดีเอชก็ได้นำซีรีส์ ไดอารีตุ๊ดซีส์ เดอะซีรีส์ กลับมาออกอากาศอีกครั้งทางช่องวัน เพื่อเป็นการทบทวนเนื้อหาก่อนเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม ซึ่งจีดีเอชได้ยิงทีเซอร์ของภาพยนตร์เป็นการเรียกน้ำย่อยและเปิดตัวในชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค โดยมีงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ ควอเทียร์ แกลอรี่ ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ และมีงานเปิดตัวภาพยนตร์ให้สื่อมวลชนได้รับชมในรอบกาล่าไนท์คืนวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

วันแรกของการเข้าฉายอย่างเป็นทางการ (5 ธันวาคม) เปิดตัวด้วยรายได้ 24.59 ล้านบาท ซึ่งทำลายสถิติเดิมของ เฟรนด์โซน ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ขึ้นเป็นภาพยนตร์ของค่ายจีดีเอช ห้าห้าเก้าที่เปิดตัวสูงสุด หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรก (สี่วันหลังเข้าฉาย) ภาพยนตร์ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 65.09 ล้านบาท และผ่านสัปดาห์แรกหลังเข้าฉาย (7 วันหลังเข้าฉาย) ภาพยนตร์ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 92.38 ล้านบาท และผ่านหลัก 200 ล้านบาทเมื่อประมาณการณ์รายได้รวมทั้งประเทศ และจากผลสำเร็จที่เกิดขึ้น จีดีเอช ห้าห้าเก้า ได้จัดงานพิเศษ ตุ๊ดซี่ส์ รำขอบคุณ ณ ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการขอบคุณแฟน ๆ ภาพยนตร์ และยังเป็นการแก้บนที่ ธงชัย ทองกันทม หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่อง ได้มาบนย่านาคไว้ว่าขอให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านขึ้นไป ซึ่งภาพยนตร์สามารถทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านบาท (เมื่อนับเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562 หรือ 8 วันหลังภาพยนตร์เข้าฉาย ที่รายได้ 100.49 ล้านบาท